“ทำไมผู้หญิงที่ถูกทำร้าย ไม่กล้าเดินออกมา?"

“ทำไมผู้หญิงที่ถูกทำร้าย ไม่กล้าเดินออกมาจากความสัมพันธ์?”

เพราะเธอกลัวความไม่ปลอดภัย จึงเลือกอดทน แม้ต้องเจ็บปวดปางตาย ทั้งร่างกายและจิตใจ

ภาพสะท้อนความรุนแรงจาก Toxic Relationship ผ่านซีรีส์ The Judge from Hell

1) บอยเข้าไปชมซีรีส์ เรื่อง “The Judge from Hell” ทาง Disney+ Hotstar เพราะเห็นกระแสดี ว่าสนุก เนื้อหาน่าดู แล้วพอได้ดูจริงๆ บอยก็ต้องบอกว่าให้คะแนนเต็ม ทั้งบทละคร และการแสดงของนางเอกปีศาจสาว ผู้พิพากษา นำแสดงโดย ‘พัคชินฮเย’ รับบทเป็น “คังพินนา” ที่แซ่บ สวย และโดดเด่นด้วย Character อันเย็นชา ไร้ความเป็นมนุษย์ แต่เธอก็พยายามยืนหยัดข้างความถูกต้องเสมอ และงาน CG ของเรื่องนี้ ทำออกมาได้น่าชม ตื่นตาตื่นใจสุดๆ จึงไม่อยากให้หลายๆคนพลาดชมเรื่องนี้กันครับ ที่มีทั้งความตลกร้าย, fantasy, อาชญากรรม และ action ครบรสในเรื่องเดียว

2) เส้นเรื่องหลักว่าด้วยปีศาจสาว ที่ตัดสินโทษในนรกผิดพลาด ก็เลยถูกปลดให้มาทำภารกิจบางอย่าง ต้องมาสิงอยู่ในร่างผู้พิพากษา และตามล่าหาผู้กระทำผิดไร้สำนึก เพื่อลงทัณฑ์ให้สาสม ซึ่งซีรีส์ดำเนินเรื่องสนุกมากตั้งแต่ EP แรก ก็เห็นการเอาคืน และสั่งสอนผู้กระทำผิดได้เจ็บแสบ ทำให้เราจดจำประสบการณ์ของความเจ็บปวดที่เหยื่อได้รับอย่างไม่รู้ลืม โดย Theme ของ EP1-2 จะพูด message หลักเรื่อง “Toxic Relationship ในคู่รัก/ครอบครัว”

3) ส่วนที่ต้องชมเป็นพิเศษคือ ‘ตัวบทละครและ Plot ของซีรีส์’ เจาะประเด็นเชิงลึกถึงความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกกระทำด้วยการใช้ความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ แบบเข้าใจผู้หญิง 100% ทำการบ้านมาดีมาก ทำให้บทละครสะท้อนปัญหาสังคมที่ผู้หญิงเผชิญหน้ากับความรุนแรงได้ทุกจุดของปัญหา ตั้งแต่สาเหตุต้นตอ, สถานการณ์ที่ต้องเจอ, ปัญหาในกระบวนการยุติธรรม และจุดจบของเหยื่อและผู้กระทำ ตีแผ่ครบทุกมุมมองในการเล่าเพียงแค่ 2 EP ทำได้ดีมากๆ

4) ต้นตออย่างแรกคือ ในสังคมปิตาธิปไตย ที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ผู้ชายมักมีความเชื่อว่า “ผู้หญิงเป็นสมบัติของตนเอง ที่ต้องรักษาไว้และครอบครองไปตลอดชีวิต” จึงผูกติดชีวิตคนรักไว้อยู่กับตัวเอง ซีรีส์สะท้อนปมปัญหาจากตัวผู้ชายได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งให้ ‘ห้ามเลิก’ และสร้างเงื่อนไขของการผูกมัดความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดใจ ด้วยการใช้คำพูดและการกระทำที่รุนแรง เพื่อควบคุมร่างกายและจิตใจของพวกเธอ เช่น ขู่ฆ่า, ทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงทำลายครอบครัวของเธอ

5) ซีรีส์สะท้อนความจริงในด้านมืดของกระบวนการยุติธรรม เช่นกันกับปัญหาความรุนแรงในไทย เช่น การบิดเบี้ยวมองคดีอาชญากรรมเหล่านี้ เป็นปัญหาเล็กๆแค่ ‘การทะเลาะกันในครอบครัว’ หรือ บทลงโทษที่เบาหวิว แทบจะทำอะไรผู้กระทำผิดไม่ได้ สักพักก็ออกมาทำร้ายผู้หญิงเช่นเดิม ทำให้ผู้หญิงยังตกอยู่ในความรุนแรง และไม่เคยได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง ซีรีส์ทำให้เราได้สัมผัสถึงความหดหู่ที่ผู้หญิงต้องแบกรับจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ที่เป็นวงจรอุบาทว์ไปตลอดชีวิตของพวกเธอ

6) ภาพสะท้อนจากซีรีส์ขยี้ไปถึงปมปัญหาสำคัญที่ผู้หญิงไม่ยอมเดินออกจากความสัมพันธ์ ได้อย่างน่าเศร้า เพราะปัญหาคือ ทุกครั้งที่เธอบอกเลิก อีกฝ่ายไม่เคยยอมจบ และใช้ความรุนแรงกับเธอซ้ำไปซ้ำมา จนเธอหวาดกลัวที่จะเลิก ต้องอดทนจมอยู่กับความกลัวอยู่อย่างนั้น และอยากตาย เพื่อหนีให้พ้นจากปัญหาที่ไม่สามารถเดินออกมาได้ด้วยตนเอง เราจะเห็นความน่าสงสารของผู้หญิงที่ผ่านความรุนแรง และเข้าใจพวกเธอมากขึ้นว่า พวกเธอต้องผ่านอะไรบ้าง และการอดทนอยู่ไม่ใช่เพราะความรัก เป็นเพียงการประคองชีวิตรอดไปวันๆ ที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะตายในมือของผู้ชายที่บอกว่ารักเธอ

7) จากการสะท้อนปัญหาสังคมผ่านซีรีส์เรื่องนี้ จุดจบของปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ก็คือโศกนาฏกรรม เพราะในเมื่อหนีไม่พ้น อยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็น ราวกับถูกพรากชีวิตไปทั้งชีวิต มีแต่ร่างกาย แต่ไร้ความสุข และไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นของตัวเองได้ ถ้าตนเองไม่อดทนอยู่เพื่อรอรับความตาย ก็ต้องพยายามฆ่าอีกฝ่ายให้ตายไป เพื่อให้เขาไม่มาทำร้ายตัวเองอีกต่อไป ดังนั้น ปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ที่มันไม่มีทางหนีไปไหนได้พ้น จึงมีฉากจบเป็นแบบข่าวอาชญากรรมบ้านเรา มันจบไม่สวยจริงๆ

บอยดูจบแค่ 2 EP แรก ยังหายใจไม่ทั่วท้องกับความโหดของการตัดสินโทษครั้งนี้ เป็นการพิพากษาของปีศาจสาว ในคราบผู้พิพากษา ที่สวยและแสบในคนเดียวกัน คงต้องตามต่อไปว่าเธอจะทำภารกิจได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์หรือไม่ และมาเอาใจช่วยเธอตลอดทั้ง 14 EP ไปด้วยกันนะครับ สตรีมได้แล้ววันนี้ ทาง Disney+ Hotstar ตอนใหม่จะมาฉายทุกศุกร์ และเสาร์ เวลา 21.30 น. ครับ

#TheJudgeFromHell #DisneyPlusHotstarTH

#ตุ๊ดส์review