รักษาโรคซึมเศร้า แบบใช้ประกันสังคม

1.ให้เช็คก่อนนะคะ ว่าโรงพยาบาลประกันสังคมที่เราเลือกมีแผนกจิตเวชหรือไม่

❌กรณีไม่มีให้รักษาที่โรงพยาบาลรัฐ

ข้อเสียคือ

1.ไม่ได้พบคุณหมอจิตเวชโดยตรง ในเคสของเรารอคิว 2 ปี อ่านไม่ผิดค่ะ 2 ปี!!

2.ต้องพบคุณหมอในเวลาราชการทำให้ต้องลางานทุกๆเดือน

✅กรณีโรงพยาบาลมีแผนกจิตเวชให้ทำตามขั้นตอนการรักษาปกติ ซึ่งแจ้งกับเวชระเบียนไปด้วยว่า"ใช้สิทธิประกันสังคม"

2.พบพยาบาล วัดความดันสอบถามอาการก่อนจะพบคุณหมอเวชปฏิบัติทั่วไป คุณหมอสอบถามอาการก่อนจะนัดคุณหมอ

แผนกจิตเวชในอีก 2 อาทิตย์ถัดไป (เคสเราเคยรักษามาแล้วที่รพ.รัฐ และหยุดการรักษา ทำให้อาการกลับมาเป็นอีก)

3.โชคดีที่โรงพยาบาลที่เรามีสิทธิประกันสังคมมีนักจิตบำบัด ทำให้เราได้พบกับนักจิตบำบัดก่อน จากนั้นพบจิตแพทย์

4.จิตแพทย์ประเมินอาการ และแจ้งว่าเราเป็นซึมเศร้าเรื้อรัง เนื่องจากเมื่อ1 ปีก่อนเคยรักษา รับยาที่โรงพยาบาลรัฐ หยุดการรักษาไป (เรารับยาแค่ 1 เดือนและไม่ได้ไปอีก เนื่องจากไม่สะดวกไปในเวลางาน) และกลับมาเป็นอีก

5.จิตแพทย์สอบถามอาการ ประเมินอาการ และจ่ายยาให้ หลังจากนั้นจะค่อยๆปรับยาเพิ่มตามอาการและความรุนแรงของโรค

ข้อดี

▶️ไม่เสียเงินสักบาท ยาเยอะแค่ไหนก็ไม่เสียเงิน

▶️ไม่กระทบเวลางาน เนื่องจากช่วงเวลาที่คุณหมอนัดจะนัดช่วง 17.00น.-20.00น.

ข้อเสีย

❌รอคิวรักษานาน เนื่องจากมีผู้ใช้สิทธิประกันสังคมในการรักษาเยอะ เราเคยพบคุณหมอเวลาเกือบ 3ทุ่ม

เราอยากบอกทุกคนว่าถ้ามีภาวะเสี่ยงให้ลองไปพบจิตแพทย์ หรืออาจจะโทรสายด่วนกรมสุขภาพจิตเพื่อประเมินเบื้องต้น

✅ไปพบคุณหมอทุกครั้งที่มีนัด และที่สำคัญเลย ❌ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด

เราขอเป็นกำลังใจให้คนที่ป่วยนะคะ และมีคำพูดของคุณหมอที่เราจำได้ในวันที่ไปพบคุณหมอจิตแพทย์วันแรก "ขอบคุณนะ ที่มาหาผม"

#ประกันสังคม #ซึมเศร้า #ซึมเศร้าเล่าได้ #ลาออก #ลาออกจากงาน