10 เทรนด์ Cloud Computing ที่กำลังมาในเเรงปี 2024

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปี 2023 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการ Breakthrough ในวงการเทคฯ โดยเฉพาะในเรื่องของ AI ที่มีอิทธิพลอย่างมากในแทบทุกสายงาน ฉะนั้นในปี 2024 ก็เป็นอีกหนึ่งปีสำคัญที่เราน่าจะเห็นวิทยาการต่อยอดที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงระบบที่อยู่เบื้องหลัง คอยจัดการ Big Data ทั้งหลายมีบทบาทมากขึ้น

ฉะนั้น Cloud Computing จึงเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่สำคัญมาก ๆ โดยมีการคาดการณ์ว่าระบบ Cloud จะมีมูลค่าพุ่งสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์ในต้นปี 2024 ฉะนั้นเราจึงต้องมาดูเทรนด์ทั้ง 10 เทรนด์ที่เกี่ยวกับ Cloud เพื่อตั้งรับการเปลี่ยนแปลง หรือนำระบบดังกล่าวมาปรับใช้ในกิจการกันเลย

👉1. AI As-A-Service

AI กลายเป็นสินค้า ทำให้ Cloud ยิ่งจำเป็น

Cloud เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จของ AI บริษัทที่อยากมี AI จำเป็นที่จะต้องมี Cloud infrastructure ควบคู่ไปด้วย เพราะต้องใช้ฐานข้อมูลที่เยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระแสที่ว่า OpenAI กำลังจะเปิด AI Store คล้าย App Store แต่จะมีไว้เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงบริการ AI ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ระบบจัดการ Big Data อย่าง Cloud ยิ่งสำคัญ ไม่ใช่มีไว้เพื่อจัดการข้อมูลของบริษัทใหญ่ ๆ เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

2. Hybrid And Multi-Cloud

บริษัทไม่ได้มีแค่ Cloud เดียวแล้ว

หลาย ๆ บริษัทโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องรับมือกับข้อมูลหลากหลายช่องทาง หรือมีข้อมูลสำคัญหลั่งไหลเข้ามาในบริษัทอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทการเงิน ธนาคาร logistics, health-care, e-commerce และอื่น ๆ อีกมากมาย จึงจะเริ่มมีระบบ Cloud ที่มากกว่า 1 ระบบ โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2024 องค์กรที่เลือกใช้ระบบ Hybrid Cloud ที่มีทั้ง Private และ Public Cloud จะมีมากขึ้นถึง 76% to 85% เลยทีเดียว

3. Real-Time Cloud Infrastructure

Cloud ที่ตอบสนองกับผู้ใช้ได้ตลอดเวลา

อีกหนึ่ง Industry ที่ขาดระบบ Cloud ไม่ได้เลยคือบริการ streaming ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Spotify หรือไปจนถึงบริการ Game Streaming ต่าง ๆ ที่มีการใช้งาน Cloud ที่หนักมาก ๆ ต้องมีการเก็บขยายข้อมูลอยู่ตลอดเวลา หรือเรียกว่าเป็นแบบ Real-time จึงจะต้องมีระบบ Cloud Computing ที่ยืดหยุ่น มีความ Scale ได้อย่างง่ายดาย

4. Cloud-Driven Innovation And Transformation

Cloud ผลักดันวิทยาการต่าง ๆ

ไม่ใช่เพียงแค่ AI เท่านั้น แต่ระบบ Cloud ยังมีส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีในสาขาอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing (IoT) อุปกรณ์เล็ก ๆ แต่สามารถเชื่อมต่อ Cloud เพื่อรับ หรือเก็บข้อมูลมากมาย ต่อยอดไปจนถึงระบบ Blockchain ที่ต้องมีระบบเก็บข้อมูลที่ใหญ่ และโปร่งใส หรือแม้แต่ระบบ Quantum Computing ก็ล้วนสามารถใช้ Cloud พัฒนาการจัดการข้อมูลได้ทั้งสิ้น

5. Cloud Security And Resilience

เสริมสร้างความปลอดภัยด้วยระบบ Cloud

ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ข้อมูลสำคัญของพวกเราต่างก็อยู่บนโลกไซเบอร์กันหมด ฉะนั้นเราจะเห็นระบบ Cloud ทั้งหลาย เพิ่มพูนความปลอดภัยกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ encryption หรือระบบ authenticationเพื่อเข้าถึงข้อมูล รวมไปถึงการสร้างระบบ Backup ข้อมูลที่รัดกุมมากขึ้น

6. Sustainable Cloud Computing

ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม

ไม่ใช่แค่ Cloud Computing เท่านั้น แต่การตื่นรู้เรื่องสภาพแวดล้อมและความมั่นคงทางทรัพยากร เป็นสิ่งสำคัญที่วงการ เทคฯ ทั้งหลายต้องใส่ใจ ปีหน้าเราจะเห็นบริษัทไอทีทั้งหลาย รวมถึง Cloud Service มากมายประกาศตนว่าจะเป็นบริษัท net-zero คือบริษัทจะทดแทนคาร์บอนฯ หรือผลกระทบเชิงลบต่อสภาพแวดล้อมที่ตนเองสร้างให้กลายเป็น 0 บริษัท Amazon ประกาศว่าจะเป็นบริษัท net-zero ภายในปี 2040 รวมถึง Microsoft ใช้เวลา 10 ปีเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกันนี้

7. Simplified Cloud Computing

ทำให้ระบบ Cloud เรียบง่ายขึ้น

ทำให้ระบบ Cloud มีรูปแบบ Low-code / No-code เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบ Cloud ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือมีความสามารถเฉพาะทางก็สามารถเข้าไปบริหาร จัดการ Modify รูปแบบ Cloud ที่เข้ากับองค์กรได้อย่างง่ายดาย รวมถึง UX / UI ที่เข้าใจง่าย สวยงาม ตรวจสอบข้อมูลสำคัญได้ ก็สำคัญในการทำให้ Cloud เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

8. Privacy In The Cloud

Cloud ให้ความสำคัญกับการแชร์ข้อมูลกับ 3rd Party

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ระบบ Cloud จะต้องพัฒนาต่อไปในปี 2024 นั่นก็คือการแชร์ข้อมูลให้กับ 3rd-Party ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผู้ให้บริการ Public Cloud ทั้งหลายจะต้องเน้นย้ำกับผู้บริโภคเลยว่าข้อมูลของคุณจะไม่หลุดไปอยู่ในมือบริษัทอื่น ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม

9. Serverless And Pay-As-You-Go Cloud

ระบบที่ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น

หลายบริษัทที่เคยมี Server ไว้เก็บข้อมูล จะเริ่มหันมาใช้งาน Public Cloud เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน และความสามารถในการ Scale ที่ง่ายขึ้น ทำให้บริษัทไม่จำเป็นที่จะต้องมี Dedicate Team สำหรับดูแล Server แต่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลในรูปแบบ Serverless Cloud จึงจะทำให้บริษัท Cloud ที่มีบริการคิดค่าใช้จ่ายตามข้อมูลที่ต้องการให้จัดเก็บ ไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นยูนิต หรือ Server จะได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก

10. Edge Computing Everywhere

เก็บข้อมูลบน Cloud ได้ทุกที่แล้ว!

สุดท้ายอุปกรณ์ต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึง Cloud และส่งข้อมูลกลับไปกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น เช่นเครื่องตรวจจับความถี่ของหัวใจ อาจเชื่อมกับ Cloud และส่งข้อมูลขึ้นระบบได้ตลอดเวลา เพื่อนำข้อมูลมากมายเหล่านี้ไปวิเคราะห์ และส่งกลับมา ณ ผู้ใช้ ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียด และเครื่องมือไม่จำเป็นต้องลบ Data เก่า ๆ เพื่อไม่ให้พื้นที่เต็ม

สุดท้ายแล้ว เทคโนโลยีจะไม่หยุดก้าวไปข้างหน้า ฉะนั้นเราในฐานะที่เป็นผู้ทำงาน ก็จะต้องไม่หยุดพัฒนาตนเอง ปรับตัวให้เข้ากับศาสตร์ใหม่ ๆ และทำให้เครื่องมือใหม่ ๆ ทั้ง Cloud ไปจนถึง AI ทำประโยชน์ให้กับเรา และองค์กร ให้ได้อย่างมากที่สุด

.

หากใครชอบเทคนิคและความรู้ดีๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมกดติดตามผมไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดคอนเทนต์ใหม่ๆ

#programmer #โปรแกรมเมอร์ #developer #การพัฒนาตน #ติดเทรนด์ #ไอทีน่ารู้ #แชร์ทริคไอที #รวมเรื่องไอที #ai #cloud