มาเขียนเรซูเม่ฉบับที่เขียนได้แค่ความล้มเหลวและพลาดในชีวิตกัน!

What I wish I knew when I was 20 เป็นหนังสือขายดีที่published ตั้งแต่2009 ผู้เขียนเป็นdoctor ทางด้านneuroscience ที่ได้สอนวิชาเชิงinnovation ให้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่Stanford University ค่ะ

ตอนหยิบเล่มนี้คิดว่าอยากอ่านขำๆเพราะผู้เขียนโปรยๆว่าเล่มนี้อยากให้เป็นของขวัญกับลูกชายของเธอค่ะ แต่พอหยิบมาอ่านแล้วบอกเลยว่าไม่ขำสักนิด และพบว่าถ้ารู้อะไรแบบนี้ตั้งแต่20ต้นๆคงมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว☺️

❣️หนังสือจะแทรกclass activityที่dr Tina ผู้เขียนสอนลูกศิษย์ที่Stanfordค่ะ รวมไปถึงbusiness knowledge และcase study ของธุรกิจมากมายมาให้เราอ่านกันแบบง่ายๆ โดยให้เรานึกตามเล่นๆ และทิ้งไว้ว่าถ้าเป็นเรา เราจะกล้าคิดออกนอกกรอบหรือทฤษฎีมั๊ย ซึ่งแต่ละบทจะพาเราให้ท้าทายตัวเอง กล้าให้ลองคิดเกินลิมิท และสุดท้ายkey idea ของเค้าคือแค่คุณกล้าที่จะอนุญาตให้ตัวเองได้ทำ Give Yourself Permission 🥹 อย่าริคำอนุญาตจากใคร เท่านี้ก็เท่ากับมีชัยตั้งแต่ก้าวแรกเริ่มแล้ว

แต่ขอไม่สปอยเยอะ อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านแต่ละบทค่ะ มีidea ธุรกิจ case study ต่างๆที่สนุกเต็มไปหมด

💘💘แต่บทที่รู้สึกว่าชอบคือตอนที่dr Tina ให้ลูกศิษย์ลองทำ failure resume หรือเรซูเม่ที่เต็มไปด้วยความล้มเหลว ความเสียดาย ความพลาดพลั้งค่ะ เราคงชินกับการเขียนเรซูเม่เริ่ดๆปังๆ แต่ถ้าเรากลับกันลองมาเขียนสิ่งที่เราอยากมองข้ามไปบ้างดีกว่า

โดยลองเขียนแบบ3ด้านค่ะ

⭐️professional failure

⭐️academic failure

⭐️personal failure

และลองให้เราทำsuccess resume ไปด้วย มาเทียบกันว่าการได้มาแต่ละความสำเร็จนั้น มันมาพร้อมกับความพลาดอะไรไปบ้าง

dr Tina ทิ้งท้ายไว้ว่าfailure เป็นlearning process ของชีวิตและความล้มเหลวทั้งหลายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของinnovation หลายๆอย่างค่ะ แต่นัยยะมันมีมากกว่านั้นเพราะเมื่อเรารู้ว่าความพลาดพลั้งทั้งหลายนั้นคืออะไร เราจะต้องยอมรับตั้งหลักและrecover สำคัญสุดคือback up planที่ดีค่ะว่าหากจะมีแนวโน้มแบบนี้อีก จะต้องมีแผนรองรับยังไงบ้าง

เล่มนี้เป็นอีกเล่มที่คิดไม่ผิดที่ต้องมีติดไว้แบบหนังสือสามัญประจำบ้านค่ะ 😌😊

#ติดเทรนด์ #ป้ายยากับlemon8 #หนังสือน่าอ่าน #พัฒนาตัวเอง

#ฝึกภาษากับlemon8 #Lemon8Club

#เคล็ดลับพัฒนาตัวเอง

#งานอดิเรก

#อ่านตามlemon8