เล่าประสบการณ์ | ฝึกภาษาอังกฤษ ใครไม่เก็ท ลองเข้ามาอ่าน 📒📝

Part 2 มาแล้วทุกโค้นนน พาร์ทนี้บี้จะแชร์ทริคสำหรับใครที่"ไม่เก็ทเลยยย"ว่าภาษาอังกฤษมันยังไงวะ งง ปะติดปะต่อจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน มาลองดูหลักการของบี้กัน

เอาล่ะ! สำหรับใครที่เพิ่งเห็นโพสต์นี้ แจ้งก่อนว่ามีพาร์ท 1 ด้วยนะ จะบอกเล่าเกี่ยวกับทริคฟังพูดอ่านเขียนยังไงให้จำขึ้นใจ

กดที่ลิงค์นี้ >> How to เก่งภาษาอังกฤษ พาร์ท 1 🍎🍎

ส่วนใครที่อ่านแล้วไปต่อกันเลยยย

🍯 สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นสู้กับภาษาอังกฤษ

1) ถามตัวเองดูค่ะว่าภาษาอังกฤษสำหรับเราคืออะไร

2) แค่ไหนที่เราอยากได้

3) แล้วเคสที่แย่ที่สุดของเราคืออะไร

4) หลักการอะไรที่เราใช้ยึดเป็นพื้นฐานในการเรียน

มาดูคำตอบของบี้ที่ตอบตัวเองกันค่ะ

1) ภาษาคือสิ่งหนึ่งที่สามารถใช้สื่อสารกับคนอื่นได้ ยิ่งได้คุยกับคนเยอะเรายิ่งชอบ เราชอบเรียนรู้วัฒนธรรมคนอื่น ภาษาคือเครื่องมือที่ดีเลย และยังเป็นกุญแจให้เราได้เปิดโลกกว้างมากขึ้น

2) ถามกลับได้ ตอบกลับได้ เขียนรู้เรื่อง เน้นเข้าใจไม่เน้นศัพท์สูง

3) ต่อให้พูดได้แค่ hello ฉันเชื่อว่าฉันก็สามารถสื่อสารกับพวกเค้าได้อยู่ดีแล้วก็ไม่กลัวด้วย ฝรั่งไม่ใช่ซอมบี้ มันไม่กัด และถ้ามีสองตัวเลือกระหว่างตายตอนนี้กับสอบภาษาอังกฤษให้ได้ 80/100 เราต้องเลือกสอบอยู่แล้ว มันมีทางเป็นไปได้ และใช่! ❝ถ้าคุณคิดว่าสุดท้ายมันเป็นไปได้ ถ้ามันมีภาพที่เห็นว่าในจุดหนึ่งเราต้องทำได้ล่ะวะ❞ ยังต้องรออะไรอีกอ่ะทุกคน ดับเครื่องชนไปเลย เอาให้มันรู้สิว่าอีแค่ภาษาหนึ่งเราจะไม่มีวันเข้าใจมันเชียวหรอ ก็พูดมันในแบบของเรานี่แหละ! // นี่คือสิ่งที่บี้เป็นเวลาเจอทางตัน พอจนตรอกมันก็จะนึกถึงจุดต่ำสุดที่เรารับไหว แล้วพอเราทำได้ดีกว่าที่คิดไว้แม้แค่นิดนึงกำลังใจมันจะกลับมาเองค่ะ

4) บี้คิดง่ายๆ ❝ทุกภาษามันก็มีกฎของมัน เราก็แค่เข้าใจในแบบของเค้า❞ อย่าเอามาเทียบกับกฎภาษาไทย และหลักการหากินของบี้ ไม่ว่าประโยคจะยาวแค่ไหน มีแค่ 2 ข้อนี้

⭐️ 𝗦 + 𝗩𝗲𝗿𝗯 + ...

⭐️ 𝗦 + 𝗩𝗲𝗿𝗯 𝘁𝗼 𝗯𝗲 + 𝗮𝗱𝗷 / 𝗻𝗼𝘂𝗻

มันจะมีคนงงชนิดที่ว่า เมื่อไหร่ต้องมี is am are เมื่อไหร่ต้องมี do does คืองงไปหมด ให้เริ่มจาก...

รู้ประเภทของคำ ต้องแยก 𝗻𝗼𝘂𝗻 𝘃𝗲𝗿𝗯 𝗮𝗱𝗷 ให้ออก! แล้วเราจะใช้ได้ถูก บางคำภาษาไทยเป็น verb แต่ในภาษาอังกฤษมันเป็น adj เราต้องยึดตามภาษาอังกฤษ

((ตัวอย่าง))

ฉันรัก I love

ฉันเกลียด I hate

ฉันชอบ I like

ฉันเศร้า I 𝗮𝗺 sad

ฉันสุข I 𝗮𝗺 happy

ภาษาไทยฟังดูมันเป็นคำประเภทเดียวกัน คือความรู้สึก เผลอๆไม่รู้ด้วยซ้ำมันมันคือคำประเภทไหนในภาษาไทย

แต่พอเป็นภาษาอังกฤษ รัก เกลียด ชอบ เค้าถือว่าเป็นการแสดงอาการ เป็น 𝘃𝗲𝗿𝗯 // สุข เศร้า เค้าถือว่าเป็นความรู้สึก เป็น 𝗮𝗱𝗷

((หน้าที่คำต่างกัน การใช้ก็ต่างกัน))

⭐️ verb ตามหลัง S ได้เลย

⭐️ adj ไม่ตามหลัง is am are / ก็ต้องนำหน้าคำนาม จบ!

คือใจความแต่ละประโยคมันก็ไม่พ้น

ใคร'ทำอะไร' หรือ ใคร'เป็นอะไร'

ไอ้ 'ทำอะไร' กับ 'เป็นอะไร' นี่แหละที่เราต้องแยกให้ออก เพราะฉะนั้นเวลาเราอยากจะพูดอะไรสักอย่าง เช่น ฉันหิว แต่ไม่แน่ใจว่า หิว มันเป็น V. หรือ adj. ก็เปิดดิกเลยค่า ถ้ามันบอกว่าเป็น adj. ก็พูดไปเลยค่ะ I am hungry ตามหลักการหากินของเรา แต่!!! (สมมุตินะ) ถ้าดิกมันบอกว่าคำนี้เป็น verb ก็พูดไปค่ะ

I hungry ง่ายๆแค่นี้เลยทุกคน

❝นี่คือทริคง่ายๆที่บี้ใช้กับศัพท์ที่บี้ไม่รู้จัก และก็เป็นอีกทริคนึงที่เค้าชอบใช้ติวข้อสอบ error กัน คือไม่จำเป็นต้องแปลออก แต่ตำแหน่งของมันสามารถบอกประเภทของคำได้อยู่แล้ว❞

เพราะฉะนั้นไปแยกประเภทของคำให้ออก ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ

เชื่อบี้ !!!

🌷🌈 หวังว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้จะช่วยให้หลายๆคนมีกำลังใจขึ้นนะคะ บี้เองก็เคยรู้สึกตันๆ ก็พักค่ะ แต่ก็ยังผ่านตาบ้าง บางครั้งได้หยุดพักสมองเหมือนได้ทบทวนซ้ำ เรื่องที่เคยไม่เข้าใจอยู่ๆกลับ ปิ๊ง💡! ขึ้นมา พอได้แรงบันดาลใจ มีไฟ ถึงค่อยกลับมาตั้งใจเรียนเหมือนกัน ตลอดชีวิตบี้ก็เรียนๆพักๆกับตัวเองแบบนี้แหละค่ะ และพักที่นานที่สุดคือ 5 ปี ตอนย้ายรร.ประถมเอกชนไปเข้ามัธยมรัฐบาลก็ทิ้งไปเลย และปิดเทอมขึ้นม.5 มีโอกาสได้ไปซัมเมอร์ที่ออส ไปแบบพูดไม่ได้นั่นแหละ ไปคนเดียวไม่รู้จักใครที่นั่นสักคน ถึงได้ไปเคาะสนิมทุกอย่าง อะไรที่เลือนลางในสมองมันชัดขึ้น เก็ทขึ้น ถามว่ากลับมาเก่งเลยมั้ย ก็ไม่ เราเรียนคลาสเบสิคระดับเด็กประถมด้วยซ้ำ แต่เราไม่อายที่จะพูดเลยค่ะ พูดติดขัดก็ไม่ลังเลเลย พูดได้เท่าที่พูด เพราะทุกคนในห้องก็งูๆปลาๆเหมือนกันก็ยังเข้าใจกันได้

❝แต่ทุกครั้งที่เราพักและกลับมามีไฟ เราเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างในภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกครั้งเลยค่ะ❞ เพราะฉะนั้นแค่มันไม่ทันใจก็อย่าเพิ่งท้อแท้เลยนะคะ อย่างน้อยให้มันอยู่รอบตัวเรา มันจะซึมเข้าไปเองทีละน้อยค่ะ ทุกครั้งที่จนมุม หรือรู้สึกตัน ลองบอกกับตัวเองว่า ก็แค่ภาษาหนึ่งที่คนครึ่งโลกใช้พูดกัน เราจะไม่มีวันพูดได้เชียวหรอวะ แล้วก็จงทำให้ภาษาอังกฤษมันเป็น'เรื่องแค่นี้'สำหรับเราให้ได้ ยิ่งท้อบ่อย เวลาเรากลับมาเราจะยิ่งสู้แบบลืมกลัว แบบก็มาดิค้าบบบ เหมือนเรายิ่งอกหักหลายครั้ง เราจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมทุกครั้ง นั่นแหละค่ะ บี้เชื่อว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแน่ๆ!

💜 บี้แปะรูปไอจีที่บี้ติดตามไว้ให้แล้ว เผื่อใครมีเทสต์แบบเดียวกันก็ลองเข้าไปติดตามดูน้าาา

ใครมีคำถาม ข้อคิดเห็นะอะไรคอมเมนต์มาได้เลยนะ มาคุยกัน มาฝึกไปด้วยกันนน

ปล.ไว้บี้จะมาเขียนเล่าเรื่องไปซัมเมอร์ที่ออสเตรเลียตอนอายุ 17 ให้อ่านนะ เด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในรร.ประจำและบ้าน ไม่เคยไปกรุงเทพ ไม่เคยนั่งรถเมล์ ไม่เคยนั่งรถไฟฟ้า ไม่เคยนั่งเครื่องบิน โทรศัพท์ก็เพิ่งมีใช้ ใช้ทำไรไม่เป็นนอกจากโทร เติมเงิน แล้วก็ต่อไวไฟดูซีรีย์ ช่องทางโซเชียลไม่มีเพราะไม่รู้จะเล่นทำไมในเมื่ออยู่กับเพื่อนที่รร. 24 ชั่วโมง เด็กในกะลาแคบๆคนนี้ได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกไปอยู่ต่างประเทศคนเดียวโดยไม่รู้จักใครสักคน ภาษาอังกฤษก็งอกง่อย ฟังพอได้ แต่ตอบได้แค่ yes no ok แล้วก็เกือบตกเครื่องบินไม่ได้กลับบ้านเพราะอ่านเอกสารที่ต้องกรอกตม.ไม่ออก

ใครอยากฟังว่าบี้เอาชีวิตรอดในออสสองเดือนได้ยังไง

ช่วนเม้นหัวใจให้คนละดวงได้มั้ยยย ૮꒰⸝⸝> ·̫ <⸝⸝꒱ა

#ภาษาอังกฤษ #เรียนภาษาอังกฤษ #เรียนออนไลน์ #เรียนภาษา #English #ชี้เป้า #ชีวิตมัธยม #ชีวิตมหาลัย #สอบ