Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

เล่มที่ ๑๙๑ ฉบับที่ ๑๙๑ เดือนม | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ขุนทอง โกเจริญ | Lemon8

เล่มที่ ๑๙๑ ฉบับที่ ๑๙๑ เดือนม | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ขุนทอง โกเจริญ | Lemon8

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
เล่มที่ ๑๙๑ ฉบับที่ ๑๙๑ เดือนม | แกลเลอรีที่โพสต์โดย ขุนทอง โกเจริญ | Lemon8 JPEG Download

เล่มที่ ๑๙๑ ฉบับที่ ๑๙๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓-หน้า-02

เก็บตกบ้านวิริยบารมี เดือนมกราคม ๒๕๕๕

“มีฝรั่งจะมาขอบวช พูดไทยได้แค่ “สวัสดีครับ” ถ้ามาเจอคำขอบวช ๕ หน้ากระดาษ คงปางตายเลย...!

วันก่อนมาย่ายังสวดมนต์ได้เลย แต่มาย่าเขาอ่านตามแบบของเขา เขาอ่านเป็น อา-เร-หะ-โต แสดงว่าเขาท่องอะระหะโตแบบภาษาอังกฤษ แต่ก็ยังอุตส่าห์สวด อิติปิ โสฯ ได้ ใช้ได้เหมือนกันนะ อย่างน้อย ๆ ไปปรับเอาทีหลังได้

อาตมาฟังแล้วก็ขำ จะไปว่าเด็กก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาท่องได้ เพียงแต่ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่านั้น อย่าไปว่าอะไรฝรั่งเลย ขนาดคนไทยแท้ ๆ ยังออกเสียงเป็น อา-รา-หัง กันแทบทั้งนั้น ทั้งที่มีแต่อะระหัง

คราวที่แล้วหยงหยงเป็นขวัญใจเพื่อนร่วมรุ่น ครั้งนี้เป็นมาย่าเพราะว่าเป็นเด็กฝรั่ง ตอนยกย่างเหยียบ เขาเองไม่เคยชินกับการที่โดนตีกรอบ เขาก็ดึงแม่ “ไม่เอาแล้ว” พอแม่เขาไม่สนใจ มาย่าก็งอนสะบัดก้นออกจากวง

ตอนที่อยู่นั้นมีเด็ก ๆ หลายคน น้องภูก็วิ่งตามมาย่าไป พักเดียวก็พากลับมา...เก่ง เด็กเขารู้ภาษาเด็กด้วยกัน เขาก็พากลับมาเล่นของเขาต่อ เล่นก็คือเดินกันต่อไป”

*************************

“ปาจารี แปลว่า ผู้เป็นแบบอย่าง ปาจารีเป็นบาลี ถ้าไทยเขาอ่านเป็น บาจารี

เราเรียกว่า ครูบา ครูก็คือ ครุ บาคือ บาจารี

ครุ คือ ผู้รับภาระอันหนัก

บาจารี คือ ผู้เป็นแบบอย่าง ก็คือแม่พิมพ์นั่นแหละ

จำไว้แม่น ๆ ว่าพ่อพิมพ์ไม่มีนะ แม่พิมพ์ก็คือ ต้นแบบที่จะหล่อหลอมสิ่งอื่นออกมาให้เหมือนต้นแบบ

คราวนี้เขาดันไปคิดว่าถ้าหากผู้หญิงเป็นแม่พิมพ์ ผู้ชายต้องเป็นพ่อพิมพ์ เข้าไม่ถึงรากศัพท์เลยไปทำเขาเพี้ยนหมด ยังดีไม่บ้าจี้เปลี่ยนแม่ทัพเป็นพ่อทัพไปด้วย...!”

*************************

“อาตมาเดินทางไกลครั้งนี้ใช้คำว่า ไปพลิกฟื้นพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซีย

อันนี้เป็นคำอาราธนาของบุคคลในอดีตที่มองไม่เห็นตัว อาตมาก็เลยต้องไป บุคคลนี้มีนามว่า ขุนอินทร์ เขาอาราธนาให้ไป

ความจริงแล้วอินโดนีเซียเป็นอาณาจักรพระพุทธศาสนาที่ใหญ่โตมโหฬารมาก ก็คืออาณาจักรศรีวิชัย สมัยพระโสณเถระมาสุวรรณภูมิ ก็ไปโปรดที่นั่นจนกระทั่งสามารถที่จะตั้งพระพุทธศาสนามั่นลงได้

จนกระทั่งเกือบ ๑,๔๐๐ ​- ๑,๕๐๐ ปี กษัตริย์รุ่นต่อมาท่านหันไปนับถืออิสลาม ศาสนาพุทธก็เลยโดนเบียดเบียนเสียจนกระทั่งอยู่ไม่ได้ จึงต้องกลับไปฟื้นคืนมา”

ถาม : ขุนอินทร์ มาจากขุนอินโดนีเซียหรือคะ ?

ตอบ : ไม่ใช่ ท่านชื่ออินทร์จริง ๆ แต่ไม่รู้จะเป็นชื่อของอินโดนีเซียหรือเปล่า

อาตมามีหน้าที่พกบุญไปเยอะ ๆ ไปแบ่งให้ท่านทั้งหลายที่อยู่ที่นั่น แล้วก็เป็นภาระของท่านจัดการเอง ไม่เกี่ยวกับอาตมา เพียงแค่ไปให้ถึงเท่านั้น อย่างที่บางคนเขาบอกว่าไปเหยียบเสียหน่อย

คุณเกรซ (เกสรมณี จารย์ไธสง) บอกว่ายังมีผู้ร่วมคณะเพิ่มไปได้นะ ลองถามเขาดูว่าเพิ่มได้สักกี่คน

*************************

ถาม : ปีนี้ต้องระวังอะไรบ้างคะ ?

ตอบ : ระวังลมหายใจเข้าออกไว้ ลืมเมื่อไรตายแน่...!

ถาม : ที่สำคัญเป็นพิเศษค่ะ ?

ตอบ : สำคัญที่สุดเลย หายใจเอาไว้แล้วจะปลอดภัย

ถาม : จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างคะ ?

ตอบ : โอ๊ย…เยอะแยะ ตั้งแต่หลับยันตื่น สารพัดจะเกิด มีทั้งวันแหละ

อะไรจะเกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง สำคัญที่สุดคือมีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน หยุด รัก โลภ โกรธ หลง ที่จะเข้ามาทำอันตรายใจของเราให้ได้

เมื่อหยุดลงได้แล้ว พิจารณาให้เห็นทุกข์เห็นโทษ แล้วกำจัดสิ่งไม่ดีนั้นออกไปจากใจ

นี่ถึงจะเป็นหน้าที่ที่ถูกต้อง และเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง อย่างอื่นเป็นเรื่องที่หาทุกข์ให้เราทั้งนั้น

*************************

สมมติเด็กชายปลาบู่บอกว่าเขื่อนจะแตก ถ้าอย่างนั้นวัดท่าขนุนตายแน่ เพราะว่าอยู่ปากเขื่อน ผวาจนไม่ต้องหลับกันทั้งคืน ถ้าเด็กชายปลาบู่เก่งจริงก็คงไม่ตายตั้งแต่เด็ก

อาตมาเคยใช้คำพูดเวลามีคนเขามาถามว่า โยมท่านนั้น อาจารย์ท่านนี้ ว่าไว้อย่างนั้นอย่างนี้ อาตมาก็ค่อนข้างจะขวางโลก บอกกับเขาไปว่า

“จำไว้ว่าฆราวาสที่เก่งจริงตายหมดแล้ว ไม่มีใครอยู่ได้เกิน ๗ วัน ที่ยังอยู่ไม่เก่งจริงหรอก ถ้าเก่งจริงถึงที่สุดก็อยู่ไม่ได้ไปหมดแล้ว”

เพราะฉะนั้น...ที่ยังอยู่พยากรณ์อยู่ปาว ๆ นี่ ยังไม่เก่งจริงหรอก เพราะว่าทุกอย่างมีตัวแปรอยู่เสมอ ตัวแปรพวกนี้อาจจะมาในลักษณะที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ ถึงเวลาสิ่งที่พยากรณ์ไว้ ก็มีการเคลื่อน มีการผิดพลาดไป

อย่างเช่นบอกว่าปีนี้เขื่อนจะแตก เราก็รอดู ปรากฎเขื่อนไม่แตก เราก็สบายใจ ที่ไหนได้ปีหน้าโดนไปตูมเบ้อเร่อเลย เพราะฉะนั้น...เราจะประมาทไม่ได้

สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าหยุดจิตเราอยู่กับปัจจุบันได้ ความทุกข์จะน้อย นอกจากความทุกข์ตามสภาวะของร่างกายแล้ว เราไม่ต้องทุกข์เพราะความคิดตัวเอง อยู่กับตอนนี้เดี๋ยวนี้มีความสุขจะตายไป ไม่เห็นต้องไปฟุ้งซ่านเรื่องอะไรเลย

*************************

“พระพุทธเจ้าตรัสถึงม้าอาชาไนยว่า เป็นสิ่งที่ฝึกมาดีแล้ว ช้างศึกและม้าอาชาไนยถึงต้องอาวุธก็ไม่ร้อง เพราะว่ามีความอดทนมาก

พระพุทธเจ้าต้องการให้พระภิกษุสงฆ์ของท่านได้รับการฝึกดีแล้ว แบบเดียวกับม้าอาชาไนย

อดทนต่อความทุกข์ยากลำบากทั้งปวง โดยมีสติรับรู้ รู้เห็นว่าความทุกข์นั้นเป็นธรรมดาของร่างกายนี้ เมื่อรู้แล้วก็ปล่อยวาง ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์เช่นนี้จะไม่มีอีก

ตรงนี้เราดีกว่าม้าหน่อยหนึ่ง ดีกว่าตรงที่เราสามารถติดต่อได้ ส่วนม้าได้แต่ทนอย่างเดียว...!”

*************************

“ปีนี้อยู่ ๆ อาตมาก็ได้รางวัลใหญ่ ๒ รางวัล ก็คือ

ในหลวงพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศให้ ในวโรกาสที่เจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา

และวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันครบรอบ ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตี อาตมาได้รางวัลเสาเสมาธรรมจักร ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขา ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม

อย่างกับธรรมะจัดสรรจริง ๆ จะช้าก็ไม่ได้ จะเร็วก็ไม่ได้ มาได้ในวาระสำคัญพอดีทั้งสองอย่าง

งานฉลองนั้นจะจัดขึ้นวันที่ ๙ มิถุนายน ตรงกับวันเสาร์

ที่ต้องรอรับในเดือนมิถุนายน เพราะว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรให้ในวันวิสาขบูชา ก็เลยต้องรอไปก่อน

แล้วปีนี้เดือน ๘ มี ๒ หน วันวิสาขบูชาเลื่อนไปเป็นวันที่ ๒ มิถุนายน รับแล้วค่อยฉลองพร้อมกันไปเลยทีเดียว

จะไม่ฉลองก็ไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้ชาวทองผาภูมิตื่นเต้นกันมาก อยากฉลอง...ต้องจ่ายเงินให้เข็ด...!

เขาไม่รู้หรอกว่าจัดงานแต่ละครั้งพระจ่ายไปเท่าไร เห็นนิมนต์พระมาครั้งหนึ่งหลายร้อยรูป แหม...ปลื้มใจมาก ว่าแล้วก็ช่วยทำบุญ ๒๐ บาท...! อัตราต่ำสุดของอาตมา ขนาดถวายเณรยัง ๒๐๐ บาทเลย ฉะนั้น...ไม่ต้องไปพูดถึงการถวายพระหรอก

ที่ขำก็ท่านพระครูวรกาญจนโชติ รองเจ้าคณะอำเภอ ท่านบอกว่า

“พวกเณรดีใจมากเลย เปิดซองมาเจอพระอาจรย์เล็กถวายไป ๒๐๐ บาท ไม่เคยได้เยอะอย่างนี้มาก่อน แล้วรุ่งขึ้นก็มาฟ้อง หลวงพ่อครับ...ผมโดนขโมยเงินครับ...!”

นี่ตกลงหลวงพ่อจะแจ้งข้อหาผมใช่ไหม ว่าทำให้เณรขโมยเงินกัน พอเห็นมีเงินเยอะ เณรของท่านก็เลยขโมยกันเอง

เป็นห่วงวัดอื่น เพราะว่าเรื่องของศีลเขาไม่ค่อยมีความเข้าใจ อย่าลืมว่าสามเณรก็คือเชื้อสายของสมณะ เป็นปูชนียบุคคลที่เขาเคารพบูชาเหมือนกัน”

*************************

“หนังสือประวัติวัดท่าขนุนเล่มเก่าที่เขาทำ มีรูปหลวงปู่สายกำลังเดินขึ้นสะพานอยู่ แต่ท่านเดินหันหลังให้ เขาใช้คำบรรยายว่า “สายไปเสียแล้ว”

พวกเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ เขาบอกว่า ท่านอาจารย์...รูปนี้มีไหม ? ขอเถอะ...ติดใจจริง ๆ

อาตมาบอกว่า ไม่มี เป็นเจ้าอาวาสช้าไปหน่อย อะไรก็ไม่ค่อยจะเหลือมาถึง

ตอนนั้นหลวงปู่กำลังเดินข้ามสะพาน เขาถ่ายรูปทางด้านหลังท่านแล้วเอามาลงไว้ เหมือนตั้งใจให้เป็นปริศนาธรรมว่า “ท่านไปแล้วนะ” แล้วบรรยายว่า “สายไปเสียแล้ว”

*************************

“พ่อแม่สมัยใหม่มักจะเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ คือทำตัวเป็นเพื่อนกับลูก พอนาน ๆ ไปเด็กจะคุ้นชิน แล้วขาดความกลัวเกรง ไม่ได้เห็นแม่เป็นแม่ แต่เห็นแม่เป็นเพื่อน ก็เลยต้องมีการทำโทษไว้บ้าง

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สรรพสัตว์ล้วนแล้วแต่เกรงอาชญา” คือกลัวการลงโทษ ถ้าไม่มีการลงโทษบ้าง ก็มักจะแหกคอกไปเรื่อย

กฎหมายบ้านเมืองต่าง ๆ มีมาเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็มีคนประเภทไม่กลัวกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นผู้แทนราษฎรแท้ ๆ เลย ยังกระทำผิดซึ่งหน้าอีก

ความจริงลักษณะอย่างนั้น ยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายไปเลย แล้วสู้คดีว่าบันดาลโทสะยังเข้าท่ากว่าเยอะ ถ้าบันดาลโทสะแล้วไม่เคยทำผิดมาก่อนนี่ ดีไม่ดีโทษนิดเดียวเอง อาจะสั่งลงโทษเท่านั้นเท่านี้ปี แล้วรอลงอาญา”

*************************

ถาม : ลูกจะสอบเข้าโรงเรียนสาธิตค่ะ ?

ตอบ : ถ้าเด็กเรียนโรงเรียนสาธิต เราต้องทำใจเลยนะ เพราะโรงเรียนจะสอนให้เด็กกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ เพระาฉะนั้น...เขาจะต้องเถียงแม่แน่นอนเลย ต่อไปเราต้องรอบคอบและรัดกุมมากกว่านี้ ถ้าทำอะไรแล้วมีช่องว่างหรือรอยโหว่นี่ เด็กเถียงแน่นอน

*************************

“เคยได้ยินสำนวนว่า นอนกินบ้านกินเมือง ไหม ?

นอนกินบ้านกินเมืองมาจากนิทานในธรรมบทว่า ชายคนหนึ่งมีนิสัยเกียจคร้านเป็นปกติ นอนจนคนอิดหนาระอาใจ วันดีคืนดี ก็มีพระราชาของอีกเมืองหนึ่งมาท้าแข่งกับพระราชาของเมืองนี้ ให้ส่งคนมาแข่งขันการนอน ถ้าใครแพ้ก็ต้องเสียบ้านเสียมืองให้อีกฝ่ายหนึ่ง

เจ้าเมืองก็เลยต้องประกาศหาว่า มีใครที่มีความสามรถในกรนอนได้นานกว่าคนอื่น ไปเจอชายจอมขี้เกียจเข้า ก็เลยเอาไปแข่ง ปรากฎว่าชนะ ก็เลยได้บ้านได้เมืองคนอื่นเขามา

สรุปว่าคนเราถ้ามีความสามารถจริง ๆ อย่างเดียวก็พอแล้ว อย่างที่ในโคลงโลกนิติท่านว่า

วิชาควรรักรู้ ฤๅขาด

อย่าหมิ่นศิลปศาสตร์ ว่าน้อย

รู้จริงส่ิงเดียวอาจ มีมั่ง

เลี้ยงชีพช้าอยู่ร้อย ชั่วลื้อเหลนหลานฯ

เพราะฉะนั้น...นอนเก่งอย่างเดียวก็ชนะได้บ้านได้เมืองมา สำนวนนอนกินบ้านกินเมืองก็ได้มาจากนิทานเรื่องนี้แหละ”

*************************

มีคนถวายบะหมี่ไวไวควิก แล้วขอให้ได้อะไรเร็ว ๆ ไว ๆ พระอาจารย์จึงกล่าวว่า

“จะเอาเร็วจริง ๆ ไหม ? ให้ถวายเครื่องบินคองคอร์ด ๑ ลำ รถไฟแม็กเลฟ ๑ ขบวน เสือชีตาห์อีก ๑ ตัว รับรองว่าอานิสงส์เร็วทันใจ

เพราะที่ว่ามานั้น เป้นสุดยอดของความเร็วทั้งนั้นเลย หรือไม่ก็ถวายนกเหยี่ยวเพเรกริน อีก ๑ ตัว”

*************************

“เพศตรงข้ามที่เข้ามาในชีวิตของเรา ไม่ใช่เพราะว่าเรามีเสน่ห์ แต่มาเพราะแรงกรรม

เพราะฉะนั้น..ต้องระมัดระวังให้ดี พลาดเมื่อไรจะไปต่อกรรมให้หนักเข้าไปอีก...!”

*************************