อาหาร0แคล ไม่อ้วน?‼️

สายน้ำต่างๆหรือน้ำอัดลมที่เขียนข้างขวดว่า 0 แคลอรี่ น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับสายน้ำหวานและมาพร้อมความรักสุขภาพ เพราะได้ความหวานและความซ่าส์เหมือนเดิม แต่ไม่มีแคลอรี่ให้ต้องกังวลเลย

แล้วเขาเอาน้ำตาลออกไปแล้ว เอาอะไรมาใส่ให้เราดื่มแทนกันนะ

น้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ดื่มบ่อยๆอันตรายหรือเปล่า?

ข่าวดีคือ เครื่องดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ไม่มีพลังงานจริง

แต่งานวิจัยพบว่า กลุ่มผู้เข้าทดลองที่เปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดมชนิด 0% แคลอรี่แทน กลับเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจมากขึ้น เอ…แล้วมันยังไง?

ไม่มีแคลอรี่ แล้วจะอ้วนได้ไง?‼️

รายงานจากการวิจัยพบว่า เหตุผลที่กลุ่มผู้เข้าทดลองที่ดื่มน้ำอัดลมที่ไม่มีแคลอรี่ (แต่มีสารเคมี) เสี่ยงเป็นโรคอ้วนเหมือนเดิม เพราะว่าสมองจะตอบรับกับรสหวานจากน้ำอัดลม 0% แคลอรี่ แต่สำไส้กลับไม่ได้รับพลังงานแคลอรี่จากน้ำตาลเหมือนเดิม ทำให้เกิดความสับสนในการสื่อสารระหว่างท้องและสมอง

ผลที่ตามมา คือ สมองจะกระตุ้นให้เรากินอาหารที่มีรสหวาน หรือมีส่วนผสมของน้ำตาล มากขึ้น เพื่อทำให้เกิดความสมดุลย์ของสัญญาณในร่างกาย

ดังนั้น แทนที่เราจะกินน้อยลง กลับเกิดความอยากอาหารมากขึ้น อยากกินโน่นกินนี่อยู่ตลอดเวลา ทำให้น้ำหนักเกินและอ้วนนั่นเองจ้าาา

⭐️น้ำอัดลม ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

จริงๆแล้ว ก็ไม่ใช่แค่น้ำอัดลมหรอก ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เครื่องดื่มที่มีรสหวานชนิดอื่นๆ เช่น ชานมไข่มุก กาแฟเย็น กาแฟลาเต้ เครื่องดื่มชาเขียว ก็มีน้ำตาลในปริมาณที่สูง และเป็นอันตรายต่อสุขภาพเหมือนกัน

แต่น้ำอัดลมจะพิเศษกว่าเครื่องดื่มอื่นตรงที่ มันมีปริมาณน้ำตาลที่สูงกว่า และแถมยังเป็นน้ำตาลชนิดที่อันตรายที่สุดด้วย นั่นคือ น้ำตาลฟรุกโตส (High Fructose Corn Syrup) และยังมีสารเคมีอื่นๆที่อาจจะทำให้สุขภาพเราแย่ลงได้ เช่น คาเฟอีน สีผสมอาหาร และสารปรุงแต่งรส เป็นต้น

คนที่ดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ สุขภาพฟันก็จะพังไปด้วย เพราะมันจะเข้าไปทำลายผิวฟัน อีกทั้งน้ำอัดลมส่งผลให้ระดับโพแทสเซียม (Potassium) ปั่นป่วน ความเสี่ยงโรคหัวใจจึงมากขึ้นตามมา

⭐️ทำไมหลายคนดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า

เหตุผลเพราะน้ำอัดลมมีน้ำตาลสูงมาก และแถมยังเป็นน้ำตาลชนิดที่ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วด้วย เมื่อร่างกายเราได้รับพลังงานจากน้ำตาลอย่างรวดเร็ว เราก็จะรู้สึกสดชื่น ตาสว่างขึ้นมาทันที

แต่ผลเสียที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในเลือดและฮอร์โมนอินซูลิน จะสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลินได้

‼️ก้าวแรก และก้าวสำคัญ คือ เราต้องลดปริมาณน้ำอัดลมที่ดื่มให้ได้‼️

แน่นอนว่าการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินของเราให้สำเร็จ เราไม่ควรจะหยุดลงที หรือหักดิบด้วยการเลิกดื่มน้ำอัดลมไปเลย ให้ค่อยๆปรับเปลี่ยนทีละนิดพอ เช่น ตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณลงอาทิตย์ละ 300-500 มิลลิลิตร เป็นต้น

อีกอย่าง เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายเรา คือ น้ำเปล่า (Water) และถ้าเราดื่มน้ำ 1 แก้ว ครึ่งชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร น้ำจะช่วยให้เราอิ่มท้องเร็วและนานขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราควบคุมความอยากอาหารได้ดีขึ้น ในช่วงลดน้ำหนัก

#ติดเทรนด์ #สาวอวบ #ลดน้ำหนัก #ลดต้นขา #ลดความอ้วน