Pocahontas : สองเรื่องเล่า หนึ่งตำนาน

ในยามเย็นของฤดูใบไม้ร่วงปี 1607 หญิงสาวชาวอเมริกันพื้นเมืองคนหนึ่งยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจมส์ในเวอร์จิเนีย เธอมองดูเรือลำใหญ่ที่แล่นเข้ามาด้วยความสงสัยใคร่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในขณะนั้น แต่เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะกลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา

หญิงสาวคนนั้นคือ Pocahontas หรือชื่อจริงของเธอคือ Amonute โดยมีชื่อเล่นว่า Matoaka เธอเป็นลูกสาวของ Wahunsenacawh (หรือที่รู้จักกันในนาม Chief Powhatan) หัวหน้าเผ่า Powhatan ซึ่งเป็นสหพันธรัฐของชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือรัฐเวอร์จิเนีย ในขณะนั้นเธออายุเพียง 10-12 ปีเท่านั้น

.

.

Pocahontas ในประวัติศาสตร์

ในความเป็นจริง Pocahontas เป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างชาวพื้นเมืองและผู้มาใหม่ชาวอังกฤษ เธอมักจะเดินทางไปมาระหว่างหมู่บ้านของเธอและเมือง Jamestown ซึ่งเป็นอาณานิคมแรกของอังกฤษในอเมริกาเหนือ

เหตุการณ์ที่ทำให้ Pocahontas มีชื่อเสียงที่สุดคือการช่วยชีวิต John Smith นักสำรวจชาวอังกฤษ จากการถูกประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียงพิธีกรรมที่จัดฉากขึ้นเพื่อแสดงอำนาจของชาวพื้นเมือง และเพื่อรับ Smith เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ไม่ใช่การช่วยชีวิตจริงๆ อย่างที่ Smith เล่าในภายหลัง

Pocahontas แต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุราว 14 ปี กับชายชาวพื้นเมืองชื่อ Kocoum ซึ่งเป็นนักรบในเผ่าของเธอ แต่ชีวิตสมรสของพวกเขาไม่ยาวนาน ในปี 1613 เมื่อ Pocahontas อายุประมาณ 17 ปี เธอถูกจับเป็นตัวประกันโดยชาวอังกฤษ ระหว่างที่ถูกกักตัว เธอได้รับการสอนภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมตะวันตก รวมทั้งถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์ โดยได้รับชื่อใหม่ว่า Rebecca

ต่อมา Pocahontas ได้แต่งงานกับ John Rolfe นักปลูกยาสูบชาวอังกฤษ ในปี 1614 การแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสันติภาพชั่วคราวระหว่างชาวพื้นเมืองและชาวอังกฤษ ที่เรียกว่า "สันติภาพ Pocahontas" Pocahontas และ Rolfe มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ Thomas

ในปี 1616 Pocahontas เดินทางไปอังกฤษพร้อมกับสามีและลูกชาย เธอได้รับการต้อนรับอย่างดีในฐานะ "เจ้าหญิงอินเดียน" และได้พบกับกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับอเมริกา Pocahontas ล้มป่วยหนักและเสียชีวิตที่เมือง Gravesend ประเทศอังกฤษ ในปี 1617 เมื่ออายุเพียง 20-22 ปีเท่านั้น สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่เชื่อว่าอาจเป็นโรคติดเชื้อจากยุโรปที่เธอไม่มีภูมิคุ้มกัน

.

.

Pocahontas ในภาพยนตร์ Disney

ในทางตรงกันข้าม Disney ได้สร้างภาพของ Pocahontas ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงในภาพยนตร์การ์ตูนปี 1995

1. **อายุและลักษณะทางกายภาพ**: ในภาพยนตร์ Pocahontas ถูกวาดให้เป็นหญิงสาวอายุราว 18-20 ปี รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม ผิวสีทองแดง ผมยาวดำขลับ ใบหน้าคมเข้ม ซึ่งแตกต่างจากความเป็นจริงที่เธอเป็นเพียงเด็กหญิงอายุ 10-12 ปีในช่วงเวลาที่เรื่องราวเกิดขึ้น

2. **ความสัมพันธ์กับ John Smith**: Disney สร้างเรื่องราวความรักระหว่าง Pocahontas และ John Smith ให้เป็นแกนหลักของเรื่อง โดยพัฒนาความสัมพันธ์จากความสงสัยใคร่รู้ไปสู่ความรักอันลึกซึ้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีหลักฐานว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์รักใคร่กันแต่อย่างใด

3. **บุคลิกภาพ**: Pocahontas ในเวอร์ชัน Disney เป็นหญิงสาวที่มีจิตวิญญาณอิสระ กล้าหาญ และมีปัญญาเฉียบแหลม เธอสามารถสื่อสารกับธรรมชาติได้ และมีความเข้าใจในเรื่องของสันติภาพและการอยู่ร่วมกันระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการสร้างตัวละครที่เป็นอุดมคติมากกว่าความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์

4. **เหตุการณ์สำคัญ**: การช่วยชีวิต John Smith ในภาพยนตร์ถูกนำเสนอเป็นฉากที่ดราม่าและโรแมนติก โดย Pocahontas วิ่งมาขวางการประหารในวินาทีสุดท้าย ซึ่งแตกต่างจากความเป็นจริงที่อาจเป็นเพียงพิธีกรรมที่วางแผนไว้แล้ว

5. **บทบาททางการเมือง**: ในภาพยนตร์ Pocahontas มีบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพระหว่างชาวพื้นเมืองและชาวอังกฤษ โดยใช้ความรักของเธอกับ John Smith เป็นสะพานเชื่อม ซึ่งในความเป็นจริง บทบาทของเธอซับซ้อนกว่านั้นมาก และการสร้างสันติภาพเป็นผลมาจากการแต่งงานของเธอกับ John Rolfe มากกว่า

6. **การจบเรื่อง**: ภาพยนตร์จบลงด้วยการที่ Pocahontas อยู่กับชนเผ่าของเธอ ในขณะที่ John Smith เดินทางกลับอังกฤษ แต่ในความเป็นจริง Pocahontas แต่งงานกับ John Rolfe เดินทางไปอังกฤษ และเสียชีวิตที่นั่นในวัยเพียง 20 กว่าปี

.

.

ผลกระทบและการวิพากษ์วิจารณ์

การนำเสนอภาพของ Pocahontas โดย Disney ได้รับทั้งคำชื่นชมและคำวิจารณ์:

- **ด้านบวก**: ภาพยนตร์ช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวอเมริกันพื้นเมือง และนำเสนอแนวคิดเรื่องการเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรม

- **ด้านลบ**: หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์และลดทอนความซับซ้อนของเหตุการณ์จริง รวมถึงการสร้างภาพเหมารวมของชาวพื้นเมืองอเมริกัน

- **ผลกระทบทางวัฒนธรรม**: ภาพลักษณ์ของ Pocahontas ที่ Disney สร้างขึ้นได้กลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก บางครั้งแทนที่ความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์

.

.

บทสรุป

เรื่องราวของ Pocahontas ทั้งในประวัติศาสตร์และในภาพยนตร์ Disney สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการนำเสนอประวัติศาสตร์ผ่านสื่อบันเทิง ในขณะที่ Disney สร้างเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจและน่าจดจำ แต่ก็เป็นการลดทอนความจริงทางประวัติศาสตร์ลงอย่างมาก

Pocahontas ที่แท้จริงอาจไม่ใช่เจ้าหญิงในเทพนิยายที่มีความรักอันงดงามกับนักสำรวจชาวอังกฤษ แต่เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ เธอเป็นเด็กหญิงที่ถูกดึงเข้าสู่โลกของการเมืองและการทูตระหว่างสองวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ชีวิตจริงของ Pocahontas เต็มไปด้วยความขัดแย้ง การสูญเสีย และการปรับตัว เธอต้องเผชิญกับการถูกจับเป็นตัวประกัน การเปลี่ยนศาสนา การแต่งงานกับชาวต่างชาติ และการถูกนำตัวไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีของชีวิตวัยรุ่นของเธอ

แม้ว่าเรื่องราวของ Disney จะไม่ตรงกับความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักชื่อของ Pocahontas และสนใจในประวัติศาสตร์ของชาวอเมริกันพื้นเมือง ภาพยนตร์นี้ได้จุดประกายการสนทนาเกี่ยวกับการนำเสนอประวัติศาสตร์ในสื่อบันเทิง และความสำคัญของการเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องและเคารพ

ในท้ายที่สุด เรื่องราวของ Pocahontas ทั้งในประวัติศาสตร์และในภาพยนตร์ เตือนใจเราถึงความซับซ้อนของมนุษย์และประวัติศาสตร์ เธอไม่ใช่ทั้งวีรสตรีในอุดมคติหรือเหยื่อที่ไร้อำนาจ แต่เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริง ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและตัดสินใจครั้งสำคัญในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

การศึกษาเรื่องราวของ Pocahontas ทั้งสองแง่มุมนี้ช่วยให้เราเห็นถึงความสำคัญของการมองประวัติศาสตร์อย่างวิพากษ์ และตระหนักถึงอิทธิพลของสื่อบันเทิงต่อการรับรู้ของสาธารณชน ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการเชิดชูเกียรติให้กับ Pocahontas ที่แท้จริง ผู้ซึ่งแม้จะมีชีวิตอันสั้น แต่ก็ได้สร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

ไม่ว่าจะเป็น Pocahontas ในประวัติศาสตร์หรือใน Disney เรื่องราวของเธอยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเข้าใจและเคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม รวมถึงพลังของการสื่อสารและการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างผู้คนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน ซึ่งเป็นบทเรียนที่ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน

#Lemon8ฟอรั่ม #history #ประวัติศาสตร์ #เรื่องเล่า #สาระน่ารู้ #ฟีด #ติดเทรนด์ #อเมริกา #DISNEY #การ์ตูน