ครูเอกชนvsครูรัฐบาล ชอบแบบไหน

Bureau : cliquez avec le bouton droit de la souris et sélectionnez "Enregistrer le lien sous..." pour télécharger.

PHOTOS
	JPEG	Télécharger
	JPEG	Télécharger
	JPEG	Télécharger
	JPEG	Télécharger
	JPEG	Télécharger

☁︎วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การทำงานทั้งสองสาย ของเอกชนและรัฐบาลค่ะ เผื่อเพื่อนคนไหนอยากเป็นครู เป็นข้อมูลพื้นฐาน สวัสดิการและฐานเงินเดือนมาให้เป็นตัวอย่าง

** ข้อมูลทุกอย่างเป็นข้อมูลเริ่มต้นเฉพาะโรงเรียนที่เค้าเคยสอนนะคะ ดังนั้นแล้วสวัสดิการหรือเงินเดือนจะเปลี่ยนไปตามโรงเรียนด้วยค่ะ**

★ ประสบการณ์ ครูเอกชน

ตอนเค้าทำงานเค้าสตาร์ทเงินเดือนที่ 13,800 บาท ทดลองงานสามเดือนนะคะหลังจากนั้นเดือนที่สี่ขึ้นเป็น 15,000 บาท

เค้าโดนหักค่าประกันอีกเดือนละ 500 บาทเป็นจำนวนหกเดือน

และค่าประกันสังคม 750 บาท = เดือนนึงเค้าจะเหลือแค่ 12,550 (ตอนทดลองงาน) ในความคิดเราซึ่งน้อยมากแทบจะไม่พอค่ากิน

เงินเดือนขึ้นปีละประมาณ 500 บาท (เป็นโรงเรียนอนุบาลเล็กๆรายเดือนอาจจะไม่เยอะ แต่เงินสอนพิเศษกันเงินซัมเมอร์ดีมาก)

แต่เริ่มลงตัวหลังจากที่ขึ้นบรรจุแล้ว ค่าสอนพิเศษ ค่าซัมเมอร์เค้าจะได้ก็ต่อเมื่อสอนครอบ1 ปีขึ้นไป เท่ากับว่าปีแรกเค้าจะไม่ได้ค่าซัมเมอร์หรือค่าสอนพิเศษใดๆ เลย หลังจากบรรจุครบหนึ่งปีขึ้นไป รู้สึกว่าเงินได้เยอะขึ้นไม่ค่อยอยากบรรจุรัฐบาล

แต่สวัสดิการเอกชนเราจะเบิกได้ ก็ต่อเมื่อไปรักษากับโรงบาลที่เราอยู่ในประกันสังคมเท่านั้นในกรณีที่ฉุกเฉินหรืออยากไปโรงบาลที่ใกล้บ้าน ก็ต้องจ่ายเองค่ะ ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้วันละไม่เกิน 2000 บาท ถ้าเกินเราต้องจ่ายเอง ค่าทำฟันถ้าจำไม่ผิดปีละ 900 บาท จะขูดหินปูนยังไม่พอเลย😅

☾ ประสบการณ์ครูรัฐบาล

บรรจุใหม่เงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,800 บาท เงินเดือนจะขึ้นปีละสองครั้ง จะขึ้นเท่าไหร่อยู่ที่ผู้บริหารค่ะว่าประเมินเราระดับไหน ส่วนตัวเค้าครั้งละ 5-6 ร้อย ปีละ2 ครั้งก็ไม่แย่เงินเดือนจะโตเรื่อยๆ

แต่จะโดนหักกบข. เดือนละ 3% จากเงินเดือน เป็นเงินสะสมที่เราจะได้ตอนเกษียณ หรือเราจะออมเพิ่มก็ได้ กรณีที่อยากสอนพิเศษ โรงเรียนที่เราสอนเป็นโรงเรียนเล็กๆ ห้องเรามีเด็กประมาณ 15 คน ผู้ปกครองขอมาว่าอยากให้สอนพิเศษ เราเปิดสอนคิดเป็นคอสรวมค่ะ (เอาเท่าที่ผปค.จ่ายได้)

ส่วนเรื่องสวัสดิการ เราสามารถไปโรงพยาบาลรัฐบาลไหนก็ได้ สามารถเบิกได้ทั้งพ่อทั้งแม่ ค่าทำฟันค่ารักษาพยาบาลเบิกได้หมด

แต่โรงบาลเอกชนต้องเสียเองเหมือนเดิมค่ะ เราเคยมีคุณย่าที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ซึ่งค่ารักษา 200,000 กว่าบาท แต่เราจ่ายค่ายาแค่ประมาณ3000- 4000 คือเราคิดว่ามันคุ้ม

ทุกคนคิดว่าแบบไหนคุ้มกว่าคะ

#เรื่องเล่าที่ทำงาน #ไดอารี่การงาน #งานเป็นไงบ้าง #ติดเทรนด์ #เจาะลึกการงาน #แชร์ปัญหาของอาชีพ #Lemon8