Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น

อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download
อะไรทำให้การถือหุ้นระยะยาว ได้กำไรดีกว่าระยะสั้น JPEG Download

เวลาเห็นคนที่เขาสามารถทำกำไรจากหุ้นเป็นระดับ 1,000% ได้นี่ เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับ ว่าเขาสามารถทำมันได้ยังไง เพราะขนาดเรากำไรแค่ 20-30% หุ้นก็แทบจะหมดแรงวิ่งแล้ว ซึ่งเคล็ดลับนอกจากจะต้องเข้าใจเรื่องของ Industry Life Cycle หรือวงจรชีวิตของอุตสาหกรรม แล้วซื้อให้ถูกช่วงแล้ว (คืออะไร ไว้ว่างๆ ผมจะเขียนให้อ่านกันครับ) ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งในทางเทคนิค ซึ่งก็คือเรื่องของช่วง Spread ราคาที่ต่างกันด้วยครับ

Spread ราคา คืออะไร? ถ้าเราสังเกตบนกระดานซื้อขายหุ้นที่เราใช้กันอยู่ปกตินั้น จะเห็นว่าราคาแต่ละช่วงจะมีมูลค่าในช่องซื้อขายที่ไม่เท่ากันด้วยครับ ซึ่งช่องซื้อขายนี้แหละครับ ที่เรียกว่า Spread ราคา

📊 โดยถ้าราคาหุ้นไม่ถึง 2 บาท Spread ราคาจะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.01 บาท

📊 แต่ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 2 บาท ไปจนถึง 5 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.02 บาท

📊 ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 5 บาท ไปจนถึง 10 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.05 บาท

📊 ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 10 บาท ไปจนถึง 25 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.10 บาท

📊 ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 25 บาท ไปจนถึง 100 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.25 บาท

📊 ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 100 บาท ไปจนถึง 200 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 0.50 บาท

📊 ถ้าราคาหุ้นอยู่ระหว่าง 200 บาท ไปจนถึง 400 บาท จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 1 บาท

📊 และถ้าราคาหุ้นตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป จะขยับขึ้นลงที่ช่องละ 2 บาท ไปตลอด

ทั้งนี้ก็เพื่อให้การซื้อขายหุ้นในแต่ละช่วงมีความเหมาะสมกับฐานราคา เพราะลองคิดดูว่า ถ้าหุ้นซื้อขายกันที่ Spread ช่องละ 0.01 บาทไปตลอด ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ หุ้นที่ราคา 100 บาท แต่ Bid-Offer ยังขยับแค่ช่องละ 1 สตางค์ ซึ่งคิดเป็นแค่ช่องละ 0.01% และกว่าจะผ่านแต่ละบาทไปได้ ก็จะต้องวิ่งกันถึง 100 ช่องเลยทีเดียวอีกด้วย นั่นคือหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าจะไปถึง 101 บาท จะต้องวิ่งกันถึง 100 ช่อง เพื่อให้ได้กำไร 1% ถ้าแบบนั้นเราคงไม่ได้เห็นหุ้นที่ราคาเกิน 200 บาทกันอีกครับ เพราะนักลงทุนจะรู้สึกว่า ลงมาเล่นหุ้นต่ำบาทคุ้มกว่า เพราะ Spread 1 ช่อง ก็เท่ากับ 1% เป็นอย่างน้อยแล้วครับ

ด้วยเหตุนี้ บนกระดานซื้อขายหุ้น ถึงต้องมีการใช้ Spread ราคาที่ต่างกันในแต่ละช่วงครับ เลยทำให้คนที่ซื้อหุ้นตั้งแต่ตอนราคาต่ำๆ แล้วถ้าหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้นเติบโต ตอนที่ราคาวิ่ง ยิ่งไกลก็จะยิ่งได้กำไรเป็นทวีคูณ

ตัวอย่างเช่น ถ้าใครที่ซื้อหุ้น BDMS ตั้งแต่ปี 2009 ที่ราคา (หลังแตกพาร์) ยังอยู่แถวๆ 2 บาท แล้วถ้าเขายังถือมาจนถึงปัจจุบัน ที่ราคาหุ้น BDMS สูงกว่า 25 บาท ซึ่งนอกจากจะกำไรไปกว่า 1,300% แล้ว ถ้าเขายังไม่ได้ขาย แล้วราคายังไปต่อ เขาจะได้ประโยชน์จากการที่ Spread ราคาตรงนี้ ขยับช่องละ 0.25 บาท หมายความว่า ถ้าราคาขยับขึ้น 1 ช่อง ขณะคนที่อื่นอาจได้กำไรช่องละประมาณ 1% แต่กับคนที่ซื้อตั้งแต่ 2 บาท จะได้กำไรช่องละ 12.5% เลย และทุกๆ 2 บาทที่เพิ่มขึ้นมา เขาจะได้กำไรเพิ่มอีก 1 เด้ง หรือ +100% เลยทีเดียว

ดังนั้น การจะถือหุ้นให้ได้กำไรระดับเป็น 10-20 เด้งนั้น จะต้องซื้อให้ถูก (ทั้งถูกตัว และถูกราคา) และจะต้องถือให้นาน เพื่อให้ราคาขยับขึ้นมาอยู่ Spread สูงๆ ให้ได้ครับ

#หุ้น #หุ้นมือใหม่ #หุ้นปันผล #ลงทุน #ลงทุนอะไรดี #การเงิน #การลงทุน #การเงินการลงทุน #ทริคบริหารเงิน #ชีวิตคือการลงทุน