Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง?

ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง?

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download
ปี66-67 สัญญาณ “ปิดโรงงาน&ปิดกิจการ” พุ่งต่อ มีกี่แห่งอะไรบ้าง? JPEG Download

ในปี 66 บริษัทใหญ่ๆหลายที่ต้องปิดกิจการไป ขาดทุนเป็นหลัก ร้อยล้าน,พันล้าน และ ปลดพนักงานออกร่วมหมื่นคน

อย่างโรงงานเหล็กกรุงเทพฯ (BISW) ที่เปิดบริษัทมาแล้วกว่า 59 ปี … แต่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น ขาดทุนติดต่อกัน เป็นหลัก 100 ล้าน

ทำให้ต้องปิดกิจการไป

ร้านไอศกรีม Baskin Robbins ก็ต้องปิดสาขาทั้งหมดกว่า 34 สาขาทั่วประเทศที่เปิดมานานกว่า 27 ปี

หรือ JD Central ยักใหญ่อีคอมเมิร์ซ ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัท JD และ กลุ่มเซ็นทรัลที่มีรายได้กว่า 7.4 พันล้านบาท แต่ขาดทุน 1.9 พันล้านบาท จึงต้องปิดกิจการไป

ถ้าย้อนไปแต่ก่อน

บริษัทที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ก็เป็นเพียงอีกบริษัทหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางสภาวะอากาศที่อาจจะมีพายุเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีอะไรมาการันตีความแข็งแกร่งของแต่ละธุรกิจให้อยู่รอดได้เลย เราอาจจะมีฐานลูกค้าประจำ หรือ มีลูกค้าเก่า ที่มี Loyalty ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่เราก็ควรจะคิดมาก(หน่อยๆ) และ พยายามพัฒนาไม่ให้ตัวเองตกเทรนด์ให้ได้ ทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาล ให้ความบันเทิง หรืออะไรก็ได้ ให้ลูกค้าเห็นว่าธุรกิจของเรา เป็น “ปัจจุบัน” อยู่ตลอด และ เพื่อให้เราได้ลูกค้าใหม่เข้ามาด้วย

สตีฟ จ็อบส์ สร้างธุรกิจที่สำเร็จระดับโลก ด้วยสินค้าที่ทำกำไรอย่างมาก และ เป็นตำนาน อย่าง iPod แต่สตีฟ จ็อบส์ ก็ทำลาย iPod ด้วยตัวของเขาเอง ทำให้ iPod นั้นเจ๊งไปด้วยตัวเอง … ตอนที่ iPod กำลังเป็นที่นิยม เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ว่ายังไง ในอีกไม่นาน ก็จะมีคนเข้ามา แล้วคิดได้ว่าจริงๆ iPod สามารถทำเป็นโทรศัพท์ได้ด้วย เราสามารถฟังเพลงผ่านโทรศัพท์ได้ และ นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ iPod เจ๊ง … แต่แทนที่เขาจะรอให้คนอื่นมาทำลายธุรกิจของตัวเอง เขาตัดสินใจที่จะทำลายมันด้วยตัวเองก่อนที่คนนอกจะเข้ามา แล้วแทนที่ iPod ด้วย iPhone เพื่อที่เขาจะได้ครองตลาดใหม่ด้วย

หรือ บริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่าง Disney ที่มีทั้งหนังการ์ตูน สวนสนุก และ ของเล่นต่างๆที่อยู่มาแล้วกว่า 100 ปี ทำไม Disney ถึงต้องเสียเงินเป็นหมื่นล้าน เพื่อซื้อ Marvel มาครอบครอง แล้วรื้อสิ่งก่อสร้างเก่าๆ ตัวการ์ตูนเก่าๆ ออกทั้งหมด เพื่อแทนที่ด้วยตัวการ์ตูนใหม่ที่ซื้อเข้ามา เพราะ Disney ทนไม่ได้ ที่จะอยู่เฉยๆ แม้แต่วันเดียว!

แล้วสิ่งเหล่านี้หมายความว่าอะไร

มีความหมายอะไรต่อธุรกิจของคุณ?​

Cr. Tina Taylor

มาในปีนี้ 2567 … เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

* ลาก่อน HotPot สาขาสุดท้ายไปซะแล้ววว จากรายได้2,000 ล้าน สาขาไปทั่วประเทศเกือบ 200 แห่ง ก่อนปิดตัวลงขาดทุน 200 ล้าน … “ฮอท พอท” และ “ไดโดมอน” จากเราไปแล้ว

* ห้างดังของชาวเชียงใหม่ กาดสวนแก้ว ก็ถูกประกาศขายไปไม่นาน

* ห้างดังฝั่งธนบุรี ตั้งฮั่วเส็ง ขวัญใจคนเย็บปักถักร้อย เพิ่งจะประกาศปิดตัวไปเมื่อ 9 กย. 2567

* บอกลาอีกราย! ‘ไก่เท็กซัส’ (เครือ OR) ประกาศปิดตัวตั้งแต่ 30 ก.ย.นี้ หลังทำตลาดในไทยมา 9 ปี ...

เอฟเฟ็กต์ธุรกิจรายใหญ่ปิดโรงงาน ลามธุรกิจรายกลาง-เล็กปิดตัวตาม แบงก์ประสานเสียงเอสเอ็มอีอ่วม เจอสารพัด สินค้าจีนทะลัก-หนี้ครัวเรือนสูง “กรุงไทย-กสิกรไทย” ห่วงกลุ่มโรงงานผลิตแบบเก่า-ไม่ปรับตัว ไปไม่รอดหลังเจอสินค้าจีนถล่ม “ผยง” เผยลงทุนใหม่ลดลงต่างชาติเน้นหาของถูก-ไม่มีจ้างงาน จับตาสัญญาณปิดกิจการยังเพิ่มขึ้น นายแบงก์ยันพร้อมประคองช่วยลูกหนี้ต่อเนื่อง โดย ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 กันยายน 2567

ปิด รง.สะเทือนซัพพลายเชน

แหล่งข่าวจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า จากที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง กำลังซื้ออ่อนแอจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลไปยังตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับลดลง 20-30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) และยอดขายรถยนต์ที่ปรับลดลง 30% และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า รวมถึงผลกระทบจากสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามา ส่งผลต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างมาก โดยจะเห็นว่ามีการทยอยปิดโรงงานและคนตกงานให้เห็นต่อเนื่อง

โดยธนาคารเริ่มเห็นสัญญาณผลกระทบจากการปิดตัวของโรงงานขนาดใหญ่ ลามสู่รายกลาง หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องซัพพลายเชนของธุรกิจรายใหญ่ เช่น โรงงานเหล็ก เตาหลอมเหล็กที่หยุดการผลิต เพราะมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับสินค้าจีนที่มีการนำเข้ามา กลุ่มเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น วัสถุก่อสร้าง รวมถึงโรงงานที่เป็นซัพพลายรถยนต์ เป็นต้น จะเห็นว่าเริ่มทยอยปิดตัวลง ซึ่งแนวโน้มสัญญาณการปิดตัวของธุรกิจและโรงงานยังคงมีเพิ่มขึ้น

ต่างชาติเข้ามาหาของถูก

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพสัญญาณการปิดโรงงานรายใหญ่มองว่า กระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีและรายเล็กแน่นอน แต่จะเป็นเรื่องของซัพพลายเชน สะท้อนว่าโรงงานเหล่านั้นไม่สามารถปรับตัวได้ทัน และเป็นโรงงานผลิตโครงสร้างแบบเก่า ขายของแบบเก่า ทำให้ผู้ประกอบการทยอยปิดตัวลง โดยเป็นผลกระทบทั่วโลก อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภาครัฐน่าจะเข้าไปช่วยในเรื่องของการจ้างงาน โดยตัวเลขการปิดโรงงานเมื่อเทียบกับการเปิดใหม่ แม้จะเห็นว่าการเปิดใหม่จะสูงกว่า แต่จะพบว่า 1.การลงทุนใหม่ไม่ได้เพียงพอกับตัวเลขการปิด คือ อัตราการปิดตัว Rate of Shutting Down สูงกว่า Rate of New Registration 2.ตัวเลขจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า เม็ดเงินลงทุนใหม่ลดลง โดยต่างชาติเข้ามาไม่ได้เกิดจ้างงาน แต่หมายถึงการหาของถูก และ 3.กลุ่มที่ปิดส่วนใหญ่ คือ เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มสร้างรายได้ประมาณ 30% ของจีดีพี มีจ้างงานประมาณ 70%

แบงก์ช่วยเติมสภาพคล่อง

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้อาจจะประเมินตัวเลขผลกระทบจากการปิดโรงงานของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ได้ค่อนข้างยาก แต่จะเห็นว่ามีค่ายรถยนต์ 2 แบรนด์ได้ประกาศปิดโรงงาน ซึ่งย่อมกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นซัพพลายเชน ซึ่งธนาคารได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง

“หากภาครัฐมีนโยบายลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อาจจะต้องรักษาสมดุลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อกลุ่มรถยนต์สันดาป (ICE) และต้องบาลานซ์การลงทุน ไม่ได้เน้นเฉพาะจีนอย่างเดียว แต่ต้องรวมไปถึงญี่ปุ่น เกาหลีด้วย และเชื่อว่าสถานการณ์จะทยอยดีขึ้นหลังมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ”